1.2 กระบวนการสร้างเสริมและดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ
ระบบกล้าเนื้อเป็นระบบที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยจะอาศัยคุณสมบัติการหดตัวของใยกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อแต่ละมัดจะยึดเกาะอยู่กับกระดูกด้วยเส้นเอ็น เมื่อกล้ามเนื้อหดตัวจะรั้งกระดูกและข้อต่อทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้กล้ามเนื้อเป็นส่วนประกอบใหญ่ของร่างกายมนุษย์และเป็นส่วนสำคัญที่สุดทำหน้าที่ในขณะที่มีการเคลท่อนไหวของร่างกาย และยังมีการเคลื่อนไหวของอวัยวะภายในร่างกาย เช่น การเต้นของหัวใจ การบีบตัวของเส้นโลหิต การบีบตัวของกระเพาะอาหาร กล้ามเนื้อในร่างกายมีน้ำหนักประมาณ 2/5 ของน้ำหนักตัวส่วนใหญ่อยู่บริเวณรอบแขนและขา ซึ่งยึดติดกันอยุ๋โดยอาศัยข้อต่อ และเอ็น ทำให้ร่างกายประกอบเป็นรูปร่างและทรวดทรงขึ้นมา
1.2.1ชนิดของกล้ามเนื้อ
ในร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยกล้ามเนื้อประมาณ 50 มัด แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ กล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อเรียบ และกล้ามเนื้อหัวใจ
3. กล้ามเนื้อหัวใจ ( Cardiac Muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานนอกอำนาจจิตใจ พบที่หัวใจเพียงแห่งเดียว กล้ามเนื้อหัวใจมีเซลล์เป็นเส้นใยยาว มีลายตามขวาง เซลล์เรียงตัวหลายทิศทาง และเซลล์มีแขนงเชื่อมเซลล์อื่นเรียกว่า อินเตอร์คาเลทเตท ดิสค์ ( intercalated disc) มีนิวเคลียสอยู่ตรงกลางเซลล์เป็นรูปไข่ เซลล์บางกลุ่มเปลี่ยนแปลงหน้าที่ไปเป็นเซลล์นำคลื่นประสาท ( special conducting system) ซึ่งได้แก่ เอ-วี บันเดิล ( A-V bundle) และเส้นใยเพอร์คินเจ ( perkinje fiber) การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจอยู่นอกอำนาจจิตใจ และทำงานได้เอง
1.2.2 หน้าที่ของกล้ามเนื้อ
1.ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย
2.รักษารูปร่าง ท่าทาง ทรวดทรงของร่างกาย
3.สร้างความร้อนหรือความอบอุ่นให้กับร่างกาย
4.กล้ามเนื้อใบหน้าและคอใช้แสดงสีหน้า
5.ทำให้ของเหลวและของแข็งเคลื่อนไหวในร่างกาย เช่น การไหลเวียนของเลือด การขับถ่ายของเสีย
6.ทำให้อากาศเข้าสู่ร่างกายและไหลเวียนในร่างกายโดยกล้ามเนื้อกะบังลมช่วยในการหายใจเข้าและหายใจออก
1.2.3การดูแลรักษาระบบกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อจะมีกำลังแข็งแรงเป็นมัดกล้ามเกิดจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีวิธีการบำรุงรักษาระบบกล้ามเนื้อ ดังนี้
1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างเหมาะสมและเพียงพอ อาหารประเภทโปรตีนจะช่วยในการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ห้ามเกิดภาวะขาดอาหารอย่างรุนแรงหรือประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อถูกทำลายในช่วงที่เข้าสู่วัยชรา อาจทำให้กล้ามเนื้อลีบเล็กลงไม่มีเรี่ยวแรงได้ เพราะโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบในเซลล์กล้ามเนื้อสลายตัว ส่วนอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตจะให้พลังงานแก่กล้ามเนื้อทำให้สามารถใช้กล้ามเนื้อในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ ได้แก่ การเพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อโดยการดึงข้อ วิดพื้น ลุกนั่ง เป็นต้น การฝึกความคล่องแคล่วโดยการวิ่งกลับตัว วิ่งเก็บของ เป็นต้น รวมถึงการยึดเหยียดกล้ามเนื้อ บริเวณต่าง ๆ และการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอื่น ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้กล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ทนทานขึ้น
3. พักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ หลังจากที่เราต้องทำงานมาตลอดวันหรือหลังออกกำลังกาย
4. มีสุขภาพจิตดี ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ เพราะการเคร่งเครียดหรือวิตกกังวลเป็นประจำจะทำให้กล้ามเนื้อแขน ขา หน้าตา มีการเกร็งตัวมากขึ้น จึงมักปวดกล้ามเนื้อตามคอ หลัง บางคนอาจปวดกระบอกตา เพราะกล้ามเนื้อรอบตาเกร็งตัว
สวยยย
ตอบลบสาระดี
ตอบลบสาระดี
ตอบลบสาระดี
ตอบลบเนื้อหาดีมาก
ตอบลบ